รีวิว TFZ Live 3 หูฟังเบสดุดัน ในราคาสุดคุ้ม!!

TFZ Live 3 review

บทนำ รีวิว TFZ Live 3

รีวิว TFZ Live 3 เป็นโมเดลที่อยู่ระหว่าง Live 1 และ Live X ซึ่งมีความสวยงามคล้ายกับเวอร์ชัน 1 มาก ในรุ่นนี้ TFZ ได้ทำการติดตั้งไดร์เวอร์ไดนามิกรุ่นที่สาม พร้อม Dual Magnetic Circuit Coil และ Diaphragm Graphene ระดับนาโน

แน่นอนว่า Tesla Magnetic Unit ที่ได้รับรางวัล VGP 2020 ของญี่ปุ่นยังคงเป็นหัวใจสำคัญของหูฟัง in-ear รุ่นนี้

หูฟังรุ่นนี้ Faceplate ด้านนอกเป็นลวดลายหินอ่อนโดยมีให้เลือก 5 รุ่น ได้แก่ สีขาว สีแดง สีเหลือง สีฟ้า และสีดำ บรรจุภัณฑ์คล้ายกับรุ่น 1 มาก แต่ได้รับการปรับปรุงสายเคเบิล: มีสี่เส้นอิสระพร้อมสายชุบเงิน

ในแง่ของการปรับแต่ง Live 3 เป็นรุ่นที่สมดุลที่สุดในสามรุ่นโดยใช้เบสที่ทรงพลังแม้ว่าจะมีกายภาพน้อยกว่ารุ่น X ก็ตาม ในขณะที่ช่วงบน – กลางมีความสมดุลและควบคุมได้มากกว่า แต่ไม่สูญเสียความชัดเจนหรือมีอยู่ในช่วงนี้

จัดว่าเป็นหูฟังที่ให้เบสที่ดุดัน ใช้ไดร์เวอร์รางวัล VGP Gold Award ในราคาที่ไม่หนักจนเกินไปประมาณ 2,090 บาท  พลาดไม่ได้จริงๆ ครับ

สรุป Spec รีวิว TFZ Live 3

  • Driver เป็นแบบไดนามิกขนาด 11.4 mm ที่ใช้ตัว Diaphragm เป็น Graphene ระดับ Nano และ
  • ใช้เทคโนโลยี Dual Magnetic Circuit Coil ใช้ Voice coil เป็นแบบคู่
  • ใช้เทคโนโลยี Ultra Tesla Magnetic ที่ช่วยเพิ่มสนามแม่เหล็กให้มันมากกว่าปกติ
  • จัดวางตัวชุด Driver แบบอย่างดีเลย ให้มีเสียงในแต่ละย่าน มันสมดุลกันไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งชุด Driver ชุดนี้ เป็น Driver ที่สร้างชื่อให้กับตัว TFZ  Driver ตัวนี้ใช้กับหูฟังที่ได้รับรางวัล VGP Gold award
  • ตัวสายที่ให้มาก็จะเป็นสายทองแดงเคลือบเงินถัก ขั้วจะเป็น 2 พินขนาด 0.78 แจ็ค 3.5
  • ค่า Impedance อยู่ที่ 20 โอห์ม ค่า Sensitive อยู่ที่ 180 เดซิเบล ย่านการตอบสนองความถี่อยู่ระหว่าง 5 เฮิร์ต ถึง 40 กิโลเฮิร์ต ย่านความถี่รองรับย่านความถี่ Hi-res

ตัว หูฟัง มี 5 สีให้เราเลือกคือ สีครีม สีแดง สีเหลือง สีฟ้า แล้วก็สีดำ faceplate มีลวดลายหินออ่อน ราคาขายศูนย์ไทย อยู่ที่ 2,090 บาทเท่านั้น รับประกันศูนย์ไทย 1 ปีเต็ม สนใจสามารถสั่งซื้อโดยกดสั่งซื้อได้ตาม Shopee หรือ Website Endgizmo หรือแอด Line ID : @endgizmo มาสั่งซื้อโดยตรง

แกะกล่อง

เช่นเดียวกับรุ่น 1 TFZ Live 3 มาในกล่องสีขาวเด่นชัดขนาด 167x82x45 มม. ที่ด้านบนคุณสามารถอ่านได้เฉพาะชื่อรุ่นซึ่งจารึกด้วยตัวพิมพ์ใหญ่สีเงิน

ที่ใบหน้าด้านข้างที่แคบลงโลโก้ของแบรนด์จะวาดด้วยหมึกสีเงินชนิดเดียวกัน ในขณะเดียวกันบนหน้าปัดด้านข้างที่ยาวขึ้นจะมีการเขียน “IN EAR MONITOR” ด้านล่างมีข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ รูปภาพของหูฟังทั้ง 5 สี ที่สามารถเลือกได้ และมีตัวบ่งชี้ของรุ่นปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีฉลากโฮโลแกรมเพื่อรับรองความถูกต้องของผลิตภัณฑ์โดยใช้หมายเลขประจำเครื่องที่ไม่ซ้ำกันภายใต้พื้นผิวป้องกันซึ่งจะถูกลบออกหลังจากการขูดขีด และมีบาร์โค้ด EAN13 รวมถึง “Made In China”

ต่อไปเรามาดูการแกะกล่องdyo ตามรูปนี้ตัวกล่องจะเป็นกล่องสไตล์เหมือน TFZ ปกติ แต่ว่าไซส์จะเล็กกว่านิดนึง เรียบง่ายไม่ได้มีอะไรฉูดฉาดเลยมาแกะกันดูดีกว่า ในชุดก็มีตัวหู แล้วก็มีสาย

TFZ-live-3-unboxing

เดี๋ยวเรามาดูกัน Accessories ดูก่อนว่ารุ่นนี้เปลี่ยนจากสมัยก่อนหรือยังมันจะมีตัวคลิปหนีบเสื้อ มีตัวจุกเหมือนเดิม ที่เดียวที่เขาชอบให้ เป็นจุก 2 แบบคือ รูกว้างกับรูแคบ เล็ก กลางใหญ่ ทั้งหมด 6 คู่ รวมที่ตัวหูก็เป็น 7 คู่

TFZ-Live-3-accessories

ลักษณะตัวหูเขาจะทำมาเป็นลาย ผมไม่แน่ใจว่ามันคล้ายๆกับลายหินอ่อนอย่างนั้นหรือเปล่าไม่แน่ใจนะ มันเป็นสีใสๆนี่แหละ แต่ว่ามันมีลวดลายดำๆข้างในอย่างนี้เลย ประมาณนี้มองดีๆก็จะเห็นตัว Driver ที่อยู่ข้างใน

ตัวด้านหลังนี้ก็เป็นพลาสติกเหมือนกับตัว Faceplate เงาวับเลย Glossy ตัวท่อนำเสียงก็เป็นชิ้นเดียวกับตัว Body มีการระบุ R กับ L ไว้ ตัวขั้วจะเป็น 2 PIN ขนาด 0.8 ประมาณนี้ ตะแกรงเป็นแบบนี้ ตรงนี้ก็จะทำเป็นเหมือนหมุดอะไรสักอย่างนึงสีดำฝั่งอยู่ ถ้าเป็นบางรุ่นตรงนั้นก็จะเป็นเพชร อันนี้จะเป็นหมุดดำๆ

คราวนี้ตัวสาย ตัวสายที่ให้มาจะเป็นสาย สายทองแดงเคลือบเงิน เส้นใหญ่พอสมควรเลยนะ มีความหนาของสายพอสมควร เป็นถัก 4 ตัวที่คล้องหูไม่มีลวด เราก็ดัดสำเร็จรูปมาจากโรงงาน ตรงนี้มีที่คล้องหูเป็นท่อหนนะ แต่ว่าตรงปลายไม่คมอะไรนะ ใส่สบาย สายนี้เงาวับเลย ส่วนสปริ้นเตอร์สายตัวนี้ก็ไปโลหะ ประมาณนี้ ส่วนข้างล่างเป็นสายพันเกลียวขึ้นมา แบบนี้นะ ตัวแจ็คก็จะเป็นแบบของ TFZ ปกติเป็น 3.5 ชุบทอง

TFZ-live-3-cable

มาลองใส่กันดู เวลาใส่เอาไฟส่องนิดนึง ที่ขั้วจะมี L กับ R บอกอยู่ ที่หูก็มี L ระบุก็ใส่เข้าไปตรงๆ สายทั้งชุดก็จะเป็นแบบนี้เลย สวยงามมากๆ โอเค เอาไว้ประมาณนี้สำหรับแกะกล่อง

wear-in-ear-tfz-live-3

รีวิว แนวเสียง TFZ Live 3

  • เสียงในย่านเบส เบสที่ได้จะมีขนาดลูกปานกลางค่อนไปใหญ่ speed เบสเร็ว กระชับ Impact แรงปะทะต่างๆ แรง แน่น สะใจเลย เบสลงได้ลึก
  • เสียงในย่าน Low จะออกอุ่น ฟังสบายนุ่มนวล smooth แล้วก็ลื่นไหล มีความเป็นธรรมชาติที่สูง ให้รายละเอียดของเสียงร้องปานกลางค่อนมาดี ตำแหน่งนักร้องถอยนิ
  • เสียงในย่านแหลมจะคมชัด ใส มีความฟรุ้งฟริ้งกรุ๊งกริ๊งที่ดี ปลายลากไปได้ไกลปานกลางค่อนมาทางไกล ให้รายละเอียดเสียงย่านแหลมที่ดีเลย
  • ด้านเวทีเสียงจะออกสมดุลกันระหว่างด้านกว้าง แล้วก็ด้านลึก ซึ่งทั้งสองด้านทำได้ปานกลางค่อนข้างมาทางดี

สรุป รีวิว TFZ Live 3

ในความเห็นของผม TFZ Live 3 เป็นหูฟังที่ให้เสียง Overall ที่สูง สามารถฟังเพลงที่มีจังหวะต่างๆได้อย่างสบายเลย ด้วยเบสที่มันแรงเพียงพอต่อแนวเพลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮิปฮอปหรือ EDM ก็เอาอยู่ พวกเพลงร็อคหายห่วงเลย ส่วนเพลง Pop ต่างๆ เพลงตลาดฟังสบาย ฟังได้ดีมากๆ ส่วนแนวเพลงอื่นๆก็ยังฟังได้ดีมากๆเหมือนกัน เพราะว่าตัวเสียงร้องแล้วก็เสียงแหลมที่ได้ มันดีมาก แล้วก็มันก็ smooth ลื่นไหลในแบบของ TFZ ตัวสายที่ให้มาในชุดก็ต้องบอกว่าดีเพียงพอ ไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มก็ฟังได้สบาย แต่ถ้าอัพเกรดขึ้นไป เสียงก็จะไปไกลเหมือนกัน

โดยสรุปแล้วหากเพื่อนๆ หาหูที่ให้เสียงเบสที่ความสนุก แรง สะใจ TFZ Live 3 คือคำตอบ หรือเพื่อนๆที่อยากได้หูที่มีความ Overall ที่สูง TFZ Live 3  ก็ใช่เช่นเดียวกัน