FiiO KA3 รีวิว DAC/AMP หางหนูจากค่าย Fiio ที่ทุกคนรอคอย!!!

fiio ka3 review cover

บทนำ รีวิว FiiO KA3

Fiio KA3 รีวิว DAC/Amp หางหนูที่ทุกคนรอคอยนะครับ ถามเข้ามามากที่สุดนะครับว่า เมื่อไหร่แบรนด์ FiiO จะทำแบบ DAC Amp หางหนูสักที วันนี้ครับ ทาง Fiio ปล่อยตัวหางหนูตัวนี้ออกมาสดๆร้อนๆนะครับ กับ รีวิว นี้เลยครับ FiiO KA3 เลยครับ ราคาขายศูนย์ไทยนะครับ จะอยู่ที่ 2,290 บาทนะครับ รับประกัน 1 ปีเต็มครับ

สั่งซื้อ คลิกเลย

รีวิว เทคโนโลยีภายใน FiiO KA3

DAC

FiiO KA3 DAC/AMP เป็นอุปกรณ์ประเภทแบบ DAC Amp หางหนู ที่ภายในใช้ชิพ DAC ตัว ES9038Q2M ชิพระดับเรือธงที่มีประสิทธิภาพที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานอยู่ใน Full-Size DAC ราคาสูง

สถาปัตยกรรมภายใน DAC นั้นใช้ชิปที่เป็นสิทธิบัตรของ ESS 32bit Hyper Stream 2 ที่เรียกว่า Hyper Stream 2 นั้น เพราะว่า มันทำงานด้วยระบบ dual mono DAC มีกำลังสูง

Fiio ได้ทดลองใช้ชิปรุ่นนี้ กับ Hi-Fi OP-amp 2 ตัวที่แยกอิสระ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเป็น DAC ที่ทำให้ได้กำลังขับที่สูง มีพลังมากเพียงพอที่จะขับหูฟังได้หลากหลายรุ่น

fiio-ka3-review-black
FiiO KA3-chip

การถอดรหัสสัญาณ

จุดขายของหลัก DAC/AMP หางหนูรุ่นนี้นั้น ใช้ความได้เปรียบของชิป DAC ES9038Q2M ที่มีความสามารถในการถอดรหัสสัญญาณที่เหนือกว่า DAC หางหนูระดับเดียวกันในท้องตลาดอย่างมาก มันสามารถถอดรหัสสัญญาณได้ตามสเปค ของ ESS ที่ออกมาจากโรงงาน

รองรับการถอดรหัสสัญญาณ PCM ได้สูงถึง 32 bit ที่ 768 khz โดยส่วนตัว ผมได้ทำการทดสอบเชื่อมต่อกับ PC ผ่าน พอร์ต USD 3.0 ครับ เสียงที่ได้ยังคงมีน้ำเสียงที่แน่น แม่นยำและเที่ยงตรงสูง รวมถึงความผิดเพี้ยนต่ำ และไม่มีการดีเลย์เลยครับ

KA3 สามารถเล่น DSD ได้สูงสุดที่ระดับ DSD512 อย่างไรก็ตาม ยังไม่รองรับ MQA หรือ DXD ถึงแม้ว่ามันจะไม่รองรับ MQA หรือ DXD แต่ข้อดีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือ ชิป ESS นั้นเป็น Native PCM และ DSD ที่สามารถเล่นไฟล์บิตเรทสูงโดยตรง ซึ่งดีกว่าการใช้ software ปรับแต่งสัญญาณอย่างมาก

รีวิว ค่าตัวเลขที่ระบุคุณสมบัติ ของ FiiO KA3

ให้พลังเสียงที่เต็มเปี่ยมด้วยค่า SNR ที่สูงถึง 122DB ในขณะที่การบิดเบือนของเสียง THD+N น้อยกว่า <0.0008%

ระดับสัญญาณรบกวนอยู่ที่ 1.7uV ซึ่งต่ำมากๆ จนแทบไม่มีสัญญาณรบกวนให้ได้ยิน คุณสามารถใช้ Fiio Music app ในการปรับ KA3 เป็นโหมด low gain ได้หากได้ยินเสียงรบกวน

FiiO KA3-08-low-noise

การออกแบบ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อพบว่ารูปลักษณ์ภายนอกของ DAC/AMP รุ่นนี้ มีลักษณะของสองแบรนด์ในร่างเดียว ด้านหนึ่งเป็นโลโก้ของ Fiio แต่พอพลิกกลับอีกด้านจะพบโลโก้ของ Jade Audio

ตัวบอดี้สวยงามและดูทนทานมากครับ มีโครงสร้างแบบโลหะลักษณะเป็นซี่นูน และพื้นผิวสีดำด้าน ส่วนด้านหัวและท้ายของบอดี้เป็นโทนสีทอง ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 17.5 กรัม และมีขนาดประมาณ 58 มม. x 22 มม. x 14 มม. นี่คือการวัดคร่าวๆ ของผม ดังนั้นจึงมีความคลาดเคลื่อนประมาณหนึ่งหรือสองมิลลิเมตร

ไฟ LED แสดงสถานะ ออกแบบมาได้ดูดี เป็นหลอดไฟรูปวงกลมเส้นบางๆ สีของไฟมี 3 สี ประกอบด้วยสี เหลือง เขียว และ น้ำเงิน แต่ไม่มีสีแดงนะครับ ดังนั้นมันไม่ใช่ ไฟ RGB อย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่ละสีบ่งบอกถึง bit rate ของเพลงนั้นๆ ที่เล่นผ่าน DAC ตัวนี้

Input/Output

DAC หางหนู เป็นอุปกรณ์ที่เรียบง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน และมีการเชื่อมต่อเพียงเล็กน้อย สำหรับ KA3 นั้นก็เช่นกันมีเพียวพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ที่ปลายด้านหนึ่ง และมีเอาต์พุตหูฟังสองช่องที่ปลายอีกด้านหนึ่งเท่านั้น

มีเอาต์พุตหูฟัง 3.5 mm. และเอาต์พุต 4.4 mm. balanced ซึ่งไม่ได้ติดตั้งค่อนอยู่ตรงกลาง ผมเดาว่าเนื่องจากขนาดของปลั๊กที่ใหญ่ และตำแหน่งของมันที่อยู่บนบอร์ด

อีกครั้ง ผมชอบลักษณะการออกแบบของ DAC หางหนู แบบนี้ ที่ไม่มีสายเชื่อมต่อติดอยู่กับตัวเครื่อง ทำให้ง่ายต่อการหาสายเชื่อมต่อประเภทใดก็ได้ที่คุณชอบ มาเปลี่ยนหรืออัพเกรดแทนสายเดิมที่ขาดหายไป

APP

มีแอพที่คุณสามารถดาวน์โหลดเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ใน KA3 ตัวอย่างเช่น คุณสามารถปรับระดับเสียงและความสมดุลได้สูงสุด แน่นอนว่ามีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น การปรับ Impedance กับการปรับค่า Gain ที่สอดคล้องกัน ซึ่งคุณสมบัติทั้งสองนี้มีการตั้งค่าได้สองแบบ

มีคุณลักษณะอื่นที่เรียกว่าตัวกรองความถี่ต่ำ ผมได้ลองเล่นฟีเจอร์นี้ดู แต่ดูเหมือนว่าหูของผมไม่สามารถจับความแตกต่างที่เด่นชัดของฟีเจอร์นี้ได้ นอกจากนี้ผมรู้สึกว่าแอพใช้งานยากเล็กน้อย หรือเป็นเพราะผมเอง เพราะผมไม่สามารถค้นหาอีควอไลเซอร์ภายในแอพได้

มีสวิตช์อีกอันหนึ่ง ใช้สำหรับปิดไฟ LED 3 สี ผมเดาว่าเพื่อประหยัดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดี แต่ผมคิดว่าคุณสมบัตินี้น่าจะมีไว้สำหรับใครก็ตามที่ต้องการใช้อุปกรณ์ของพวกเขาในสภาพแวดล้อมที่มืดโดยสิ้นเชิง

หากคุณต้องการคู่มือการใช้งานผลิตภัณฑ์ ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือพกติดตัวเพราะแอพมีคู่มือที่คุณสามารถดึงขึ้นมาและอ่านเพื่อใช้อ้างอิงได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมอ่าน PDF ครับ

FIIO-KA3-app

การเชื่อมต่อ

USB-DAC

ผมใช้ KA3 เชื่อมต่อโดยตรงกับพีซีของผม เป็นคอมโบแอมพลิฟายเออร์ DAC และมันใช้งานได้ดีที่เดียว เมื่อบวกกับการเป็น Plug-and-play ที่แกะออกจากกล่องก็เสียบใช้งานได้เลยไม่มีอะไรยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องใช้ไดรเวอร์บน Windows 10 และ Windows 11 เลยครับ และมันยังสามารถทำงานได้ที่ full bit rate

ในส่วนของการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ Apple หรือ MAC นั้น ทำได้สมบูรณ์ดีเช่นกัน เหมือนอุปกรณ์ Fiio รุ่นอื่นๆ ที่รองรับ Apple หรือ MAC ได้ดี

USB-OTG

เช่นเดียวกับบนพีซี DAC/AMP หางหนูตัวนี้ ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ Plug-and-play ผมแค่เสียบมันเข้ากับโทรศัพท์ Android และไม่ต้องมีการตั้งค่าใดๆ เลย มันก็สามารถใช้งานได้ทันที

ในเว็ปไซตของ FiiO มีการระบุว่าเนื่องจาก KA3 ต้องใช้พลังงานค่อนข้างมาก ทำให้การเล่นกับ iPhone ผ่านขั้ว Lightning ซึ่งอาจมีพลังงานที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการีบูต หรือเครื่องดับไปได้ แต่พวกเขาบอกว่าจะเกิดขึ้นในระดับเสียงที่ดังเท่านั้น

โปรดจำไว้ว่า KA3 ไม่มีแบตเตอรี่ดังนั้นจึงต้องอาศัยแหล่งพลังงานที่เชื่อมต่อจากโทรศัพท์ หากวันไหนที่คุณใช้งานโทรศัพท์ของคุณมากหน่อย แบตเตอรี่อาจจะหมดเร็วกว่าปกติครับ

แกะกล่อง รีวิว FiiO KA3

กล่องสี่เหลี่ยมสีดำเคลือบอย่างดี ที่ด้านหน้ากล่องเราจะเห็นชื่อ KA3 และภาพตัว DAC สีเงิน ลอยอยู่บนแผงวงจรอย่างสวยงาม เมื่อเปิดกล่องออก เราจะเห็นของที่บรรจุอยู่ภายใน 2 ช่อง

ช่องแรกจะเป็น DAC/AMP ที่ถูกบรรจุไว้อย่างปลอดภัยภายกล่องที่มีโฟมกันกระแทกอีกชั้นหนึ่ง ช่องที่สอง จะมีกล่องสีดำขนาดเล็ก ภายในนั้น มีสาย USB-C 1 เส้น และ USB-A to USB-C adapter 1 ตัว สำหรับไว้เชื่อมต่อกับพีซีที่ไม่มี USB-C

ในกล่องมีคู่มือใช้งานมาให้ด้วย แต่แนะนำไว้อย่างนึงครับ แม้ว่า KA3 จะเข้ากันได้กับ Apple แต่ไม่ได้มาพร้อมกับสาย Lightning ที่ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ชอง Apple นะครับ ดังนั้นคุณจะต้องหาซื้อเอง อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำ สายเชื่อมต่อ Fiio LT-LT1 สายแปลง Lightning เป็น USB Type-C ราคาเพียง 490 บาท สามาถสั่งซื้อได้ตามลิงค์เลยครับ

สรุป รีวิว แนวเสียง FiiO KA3

เสียงในย่าน bass นะครับ  bass ที่ได้จะมีขนาดลูกที่ใหญ่  speed   bass ปานกลางนะครับ เนื้อของเสียง bass เยอะ  bass อิ่ม impact และแรงปะทะต่างๆนะครับ แรงมากถือแน่นมากนะครับ  bass คางในระดับหนึ่งนะครับ แล้วก็ bass สามารถลงได้ลึกครับ

เสียงในย่านร้องนะครับ จะอุ่น อิ่ม หนานะครับ ตำแหน่งนักร้องจะนำ รุกเร้าเล็กน้อยนะครับ แล้วก็ให้รายละเอียดเสียงร้องอยู่ในเกณฑ์ปานกลางนะครับ เสียงในย่านแหลมนะครับ จะไม่คม แล้วก็ไม่บาดหูไม่เสียบหู ฟรุ้งฟริ้งกรุ๊ง กริ๊งแบบพอประมาณครับ ไม่รุกเร้ามากเกินไปนะครับ แล้วก็ให้รายละเอียดเสียงย่านแหลมอยู่ในเกณฑ์ปานกลางค่อนไปทางดีครับ

ด้านเวทีเสียงนะครับ จะออกสมดุลกันระหว่างด้านกว้างและด้านลึกนะครับ ซึ่งทั้ง 2 ด้าน ทำได้ดีในระดับปานกลางนะครับ

ในความเห็นของผมนะครับ FiiO KA3 เป็น DAC/AMP หางหนูที่เด่นมาก เรื่อง bass ที่แรงสะใจ ฟังสนุกนะครับ เสียงร้องเด่น ถูกดันขึ้นมาข้างหน้านะครับ ในขณะที่เสียงแหลมกับฟังสบาย ไม่คมนะครับ ฟังเพลงแนวต่างๆได้ดีเลยนะครับ พวก play stream ต่างๆ ถือว่าฟังได้ดีมากๆนะครับ

เพลง Pop เพลง Rock เพลง EDM เพลง Hip Hop เอาอยู่เลยครับ สบายๆเลยครับ ยิ่งจับคู่กับหูฟังที่มี bass ดีๆแรงๆนะครับ ยิ่งส่งเสริมกัน ฟังสนุกมากๆจริงๆนะครับ

การทำงานร่วมกัน

ประสิทธิภาพ

ในตอนแรก เมื่อคุณเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือพีซี ตัว DAC จะค่อนข้างร้อน และ ด้วยลักษณะนี้ชัดเจนเลยว่า KA3 จะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์พกพาลดลงอย่างมาก แต่คุณไม่ต้องกังวลกับข้อเท็จจริงนี้หากคุณใช้พีซีที่ใช้พอร์ต USB

ผมค่อนข้างประหลาดใจที่ โดยเฉลี่ยอายุการใช้งานแบตเตอรี่อุปกรณ์พกพาที่เชื่อมต่อกับ DAC ลดลงประมาณ 30% ซึ่งถือว่าดีทีเดียว เมื่อเทียบกับ DAC หางหนู ส่วนใหญ่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะลดลงเหลือประมาณ 50% ในระดับการใช้งานแบบเดียวกัน

การจับคู่หูฟัง

ผมได้ลองกับ หูฟัง FH5 ซึ่งเป็นหูฟังที่ให้เสียงที่สดใส แต่เมื่อจับคู่กับ KA3 ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่อบอุ่นประกอบกัน ทำให้เกิดคอมโบที่ดีมาก และเข้ากันได้ดีมาก

บทสรุป รีวิว Fiio KA3

หลังจากที่ได้ รีวิว DAC/AMP หางหนู รุ่นนี้มาได้ระยะหนึ่ง ผมว่ามันเป็น DAC/AMP หางหนูที่เพียบพร้อมทั้งช่อง 3.5 mm single ended และ 4.4 balanced ให้โทนเสียงธรรมชาติติดอุ่นเล็กน้อย เวทีกว้าง ฟังเพลงได้หลากหลายแนว แรงขับสูงมากในเรทราคาสำหรับ DAC/AMP หางหนู ที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ พื้นหลังสงัดในโหมด Low gain โดยมีความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลายทั้ง smartphone, tablet, pc, laptop, apple device เรียกได้ว่า ซื้อแล้วจบ ครบ คุ้ม สำหรับสาย Streaming หรือผู้ที่ชื่นชอบการใช้โทรศัพท์มือถือฟังเพลงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ

จุดดีที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก คือ ไม่ว่า คุณต่อ Dongle DAC/AMP นี้ กับ พีซี, อุปกรณ์ Apple หรือโทรศัพท์ Android ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะ ประสิทธิภาพจะไม่ต่างกันครับ นั่นเป็นหนึ่งในข้อดีของ DAC หางหนู ทั้งหมด และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม DAC หางหนูแบบนี้ กลายเป็นสินค้ายอดนิยมในปัจจุบัน