บทนำ รีวิว FiiO FH3
FiiO FH3 รีวิว หูฟังแบบ Hybrid 3 Driver รุ่นใหม่ล่าสุดของ FiiO ที่มาพร้อมกับเสียงที่ผมว่าดีไม่แพ้ตัว Top เลยแต่ในราคาที่สบายกระเป๋าผมมาก รายละเอียดจะเป็นยังไง ติดตามได้ในรีวิว
Fiio FH3 หูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์ 3 ไดร์เวอร์ 2 balanced armature กับ 1 dynamic driver ตัว diaphragm ชุบ Beryllium รองรับ Hi-Res
โดย Driver BA จะเป็นของแบรนด์ Knowles ทั้ง 2 ตัวเลย ย่านความถี่สูงเขาจะใช้ Knowles RAD 33518 ย่านความถี่กลางจะใช้ Knowles ED 302262 ส่วนย่านความถี่ต่ำจะเป็น Driver แบบ Dynamic ขนาด 10 mm
ในทุกๆ เดือน ดูเหมือนว่า FiiO จะผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจำนวนมากอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้เปิดตัว หูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์ FA9 แบบบาลานซ์อาร์มาเจอร์ที่สมดุล จากนั้นเป็น หูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์ ระดับเริ่มต้น FD1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และตอนนี้พวกเขาได้เปิดตัว หูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์ FH3 รุ่นล่าสุด
ผมรู้สึกประหลาดใจกับประสิทธิภาพของ FD1 และที่ให้มาในรุ่น FH3 ที่ตั้งใจจะให้เป็นผู้สืบทอดของหูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์ F9 Pro ซึ่งมีการกำหนดค่าไดรเวอร์และราคาที่ใกล้เคียงกันด้วย ดังนั้นผมหวังว่าจะได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
สนใจสั่งซื้อแบบมั่นใจว่า ได้ของแท้ ประกันศูนย์ไทยเต็มๆ นะครับ สามารถสั่งซื้อ Link นี้เลยครับ
รีวิว เทคโนโลยีภายใน FiiO FH3
เมื่อมองแวบแรก FH3 นั้นดูคล้ายกับหูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์ ไฮบริดซีรีย์ FH ของ FiiO ที่เหลือ แต่มีการย่อส่วนลงเล็กน้อยจาก หูฟังระดับไฮเอนด์ FH5 และ FH7
FH3 มีการใช้ไดรเวอร์สามตัว ควบคุมย่านความถี่แต่ละย่านด้วย Cross over 3 ทางที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ทำให้เสียงที่ได้ออกมามีความ smooth ลื่นไหลมากที่สุด โดยใช้ ไดนามิคไดรเวอร์ (DD) 1 ตัวคุมย่านเสียงต่ำ บาลานซ์อาร์มาเจอร์ (BA) 1 ตัวคุมย่านเสียงกลาง และ บาลานซ์อาร์มาเจอร์ (BA) อีก 1 ตัวคุมย่านเสียงสูง
BERYLLIUM-COATED DYNAMIC DRIVER
ในย่านเสียงต่ำหรือเบส ถูกควบคุมโดยไดรเวอร์ไดนามิกเคลือบเบริลเลียม 10 มม. ซึ่งคล้ายกับที่ใช้ใน FD1 และ F9 Pro ดั้งเดิม ที่มีการอัปเกรดไดรเวอร์ไดนามิก PEK 9.2 มม.
อย่างไรก็ตาม ไดรเวอร์ไดนามิกใน FH3 นั้นจะเน้นที่ย่านเสียงต่ำล้วนๆ ไม่ใช่ทุกย่านเสียง เลือกใช้กรวยเคลือบเบริลเลียมที่มีความเบาและแข็งแกร่ง (เบากว่าการออกแบบ PEK รุ่นก่อน) สามารถทำให้ไดรเวอร์ควบคุมและตอบสนองเสียงเบสที่ทรงพลังแได้
S.TURBO
เพื่อเสริมไดรเวอร์นี้ FH3 ยังมีเทคโนโลยีการออกแบบเสียง S. Turbo เป็นสิทธิบัตรของ FiiO เทคโนโลยีนี้จะกรองฮาร์โมนิกความถี่สูงที่ไม่ต้องการออกไป ซึ่งอาจเกิดจากไดรเวอร์ไดนามิกโดยไม่ตั้งใจ สิ่งนี้จะทำให้ FH3 มีการตอบสนองเสียงเบสที่นุ่มนวลขึ้นซึ่งไม่รบกวนย่านความถี่อื่นๆ
BALANCED ARMATURE
FH3 ใช้ บาลานซ์อามาเจอร์ไดเวอร์ (BA) 2 ตัว สำหรับย่านเสียงกลางและสูง สิ่งที่น่าสนใจคือ FiiO ได้ตัดสินใจวางไดรเวอร์ BA ที่มีความถี่สูงกว่าไว้ใกล้กับหู เพื่อลดการสะท้อนของเสียงแหลมผ่านท่อเสียง สิ่งนี้จะช่วยให้ FH3 สร้างเสียงแหลมที่ใสและแม่นยำยิ่งขึ้น
ด้วยกาควบคุมย่านความถี่แบบ 3 ทาง ไดรเวอร์แต่ละตัวได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้เสียงแต่ละย่านความถี่ที่ค่อนข้างแคบ ทำให้เป็นจุดแข็งที่ความสามารถนำเสนอรายละเอียดของเสียงที่ชัดเจนในแต่ละช่วงความถี่
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือความสามารถในการสร้างเสียงที่ประสานสอดคล้องกันด้วยการรวมไดรเวอร์ทั้ง 3 ตัวอย่างเหมาะสม ผมกำลังรอดูว่า FH3 จะสามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้หรือไม่
แกะกล่อง รีวิว FiiO FH3
ต่อไปเรามาดูการแกะกล่อง รีวิว ตัว FiiO FH3 กันครับ FH3 มาในกล่องแบบปกติของ Fiio IEM ในปัจจุบัน ตัวกล่องทำมาอย่างสวยงาม ข้างหน้ามีเขียนว่าเป็น Hi res Audio แล้วก็มีรูปตัวหูฟังชัดเจน โลโก้บอกรุ่น FH3 ด้านหลังไม่ได้มีอะไร มีแค่บอกว่าเป็น 2 BA + 1 Dynamic แล้วก็ถอดเปลี่ยนสายได้ เป็น Driver ของ Knowles แค่นั้น โดยรวมแล้วกล่องมีความทนทานเพียงพอสำหรับการจัดส่ง
ภายในกล่องมีแผ่นพับข้อมูลของ FiiO ที่ด้านบนและตัว IEM ซึ่งจัดเรียงอย่างสวยงามในแผ่นโฟมเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวระหว่างการขนส่ง
ภายในกล่องมีแผ่นพับข้อมูลของ FiiO ที่ด้านบนและตัว IEM ซึ่งจัดเรียงอย่างสวยงามในแผ่นโฟมเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวระหว่างการขนส่ง
อีกครึ่งหนึ่งของกล่องบรรจุกล่องพลาสติกแข็งใสพร้อมกระเป๋าขนาดเล็กด้านในที่มีจุกหูฟัง ในชุดมีตัวเคสให้ เป็นเคสอย่างดีเลย เป็นเคสพลาสติกอย่างดี ใส แล้วก็มีเคสอันเล็กเป็นผ้าให้มาอีก 1 อันด้วย
ในนี้ก็มีแปรงปัดทำความสะอาดหูฟัง แล้วก็มีตัวจุกให้หลายแบบเลย โดยรวมมีจุกหูฟังซิลิโคนทั้งหมด 4 แบบที่แตกต่างกัน เล็ก กลาง และใหญ่ พร้อมจุกหูฟังโฟมเพิ่มเติม
เดี๋ยวเราไล่ดูจุกมีอะไรบ้าง อันนี้จะเป็นจุกโฟม ให้มาทั้งหมด 2 คู่ ส่วนอันนี้จะเป็นจุกแกนแดง เขาให้เล็ก กลางใหญ่ มาอย่างละคู่ FiiO เวลาเขาให้จุก เขาให้ครบๆ จริงๆ เลย อันนี้จะเป็นแกนดำ ตัวนี้ผมจำไม่ได้ว่าน่าจะเพิ่มเบสนะตัวนี้ แล้วก็มีจุกอันนี้อีกอันหนึ่ง อันนี้น่าจะไม่ชัวร์นะ แต่ผมเข้าใจว่าเพิ่มร้องนะ ต้องลองดูนะ
การออกแบบ
หากคุณเคยเห็นหูฟัง FH5 และ FH7 มาบ้างแล้ว สำหรับ FH3 ก็มีรูปแบบการออกแบบที่คล้ายกัน เหมือนเอารุ่นตัว Topตัวสัก 8,000-9,000 อะไรอย่างนี้เอามาย่อส่วนเป็น FH3
บอดี้หูฟัง FH3 ทำจากโลหะผสมอะลูมิเนียม-แมกนีเซียม เกรดเดียวกับที่ใช้ทำอากาศยาน แต่ยังคงมีน้ำหนักที่เบา อีกทั้งยังทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีอย่างมากเมื่อเทียบกับวัสดุอะคริลิก
บอดี้หูฟังได้ผ่านกระบวนการกัด CNC 5 แกนเพื่อให้มีรูปร่างตามหลักสรีรศาสตร์ ไร้รอยต่อ จากนั้นจึงเสร็จสิ้นด้วยการพ่นทราย Zircon 260 เพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียน
นอกจากนี้ FiiO ยังได้เพิ่มเครื่องหมายสีน้ำเงินและสีแดงบนบอดี้หูฟัง รวมถึงที่สายหูฟังที่คล้ายกับ FH5 และ FH7 ทำให้ระบุทิศทางของช่องสัญญาณ L/R ได้ง่ายขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อสายเข้ากับหูฟัง
ก้านที่ยืดมาจากบอดี้หูฟังนั้นความยาวกำลังดี ดังนั้นมันจึงใส่ได้พอดีและค่อนข้างสบาย เป็นที่น่ายินดีที่ FiiO ยังคงรักษาปรัชญาการออกแบบในแบบเดียวกับที่พบในรุ่นไฮเอนด์ ทำให้ FiiO ยึดแนวทางการออกแบบนี้สำหรับ หูฟังประเภทไฮบริดเรื่อยมา
EAR TIPS & ISOLATION
ถึงแม้ว่าจะมีคำแนะนำต่างๆ มากมายเกี่ยวกับจุกหูฟัง แต่ผมพบว่า ตัวเองกำลังกลับไปใช้จุกหูฟังที่มากับ FH3 ซึ่งดูเหมือนจะเหมาะสมที่สุด สำหรับความชอบส่วนตัว จุกหูฟังขนาดกลางและใหญ่จะค่อยๆ เพิ่มปริมาณเสียงเบสของ FH3 ในขณะเดียวกันก็ลดรายละเอียดและเนื้อสัมผัสของเบสลง
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ชอบจุกโฟมอยู่แล้ว และในกรณีนี้ จุกโฟมที่มากับ FH3 นั้น แม้ว่าพวกมันจะให้เสียงที่มีรายละเอียดมากขึ้น แต่ก็มักจะทำให้เวทีเสียงแคบลง
ในส่วนของจุกหูฟังขนาดเล็กนั้น ที่มากับ FH3 สามารถให้รายละเอียดเสียงที่ดีระดับหนึ่ง และได้เสียงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรสนิยมของผม
STOCK CABLE
สายเคเบิลที่มาพร้อมกับ FH3 เป็นสายเคเบิลทองแดงโมโนคริสตัลไลน์ชุปเงินบริสุทธ์สูง หุ้มด้วยแจ็คเก็ตที่เป็นปลอกยางแบบบาง แจ็คเก็ตนี้ทำให้สายเคเบิลสามารถจัดการได้มากขึ้นและทนทานต่อการพันกัน
ตัวสายจะเป็นสายแบบดัดสำเร็จรูปมาจากโรงงาน ดัดอีกไม่ได้ แล้วก็ฉนวนตรงนี้จะเป็นฉนวนใส มองเห็นตัวนำที่อยู่ข้างใน ตัวสปิทเตอร์สายจะทำมาจากโลหะเป็นวงรีๆ แบบนี้มีที่รูดสายเป็นโลหะเหมือนกัน สายด้านล่างก็เดินคู่ขึ้นมาเลย เป็น 2 เส้นตั้งแต่แรก
ปลายสายเป็นแจ็ค 3.5 มม ชุบทองคุณภาพดี . ทำมุม 90° โดยใช้ตัว spacer ขนาดเล็กเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเชื่อมต่อจะพอดีกับ DAP ของคุณแม้ว่าจะอยู่ในเคส
สายหูฟังยังคงใช้เป็นขั้ว MMCX ในแบบหักมุมในการเชื่อมต่อ โดยส่วนตัวผมชอบการเชื่อมต่อด้วยขั้ว MMCX มากกว่าการเชื่อมต่อด้วยขั้ว 0.78mm2-pin เนื่องจาก MMCX นั้นแข็งแกร่งกว่า นอกจากนี้ ไม่มีโอกาสเลย ที่ขั้ว จะงอหรือหักค้างไว้ในหูฟัง
มุมหักงอเล็กน้อยนี้ให้สายหูฟังมีความกระชับพอดีสำหรับคล้องหู ทำให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้นมากโดยไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะหลุดออกจากหู
สายเคเบิลมีลักษณะโปร่งใส ด้วยการชุบเงินบนทองแดงโมโนคริสตัลไลน์ ทำให้มีความต้านทานโดยรวมในระดับที่ต่ำ นั่นหมายความว่าสายเคเบิลจะสามารถลดปริมาณการสูญเสียข้อมูลในความถี่ที่สูงขึ้น และให้พลังงานกับเสียงแหลมเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย จัดว่าเป็นสายเคเบิลคุณภาพดีที่เดียว เมื่อพิจารณาจากราคาของ FH3
รีวิว แนวเสียง FiiO FH3
ต่อไปเรามาดู รีวิว แนวเสียง Fiio FH3 กัน เสียงในย่านเบส เบสที่ได้จะมีขนาดลูกปานกลาง เนื้อเบสเยอะ Speed เบสปานกลาง ไม่ไวไม่ช้า Impact แรงปะทะต่างๆทำได้ปานกลางค่อนมาทางแรง เบสลงได้ลึก เสียงในย่าน Low เขาจะออกอุ่น แล้วก็อิ่ม ให้เนื้อของเสียงล้อที่หนา ตำแหน่งนักร้องจะขยับมาทางหน้าเล็กน้อย ให้รายละเอียดของเสียงร้องอยู่ในเกณฑ์ปานกลางค่อนมาดี การแยกเสียงนักร้องออกจากเสียงอื่นๆทำได้ดี เสียงในย่านแหลมเขาจะออกมน ไม่คม ไม่บาดหู ไม่เสียดหู ลากปลายไปได้ไกลปานกลาง ให้รายละเอียดของเสียงแหลมที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลางค่อนมาดี ด้าน RT เสียงจะออกสมดุลกัน ระหว่างด้านกว้างแล้วก็ด้านลึก ซึ่งทั้งสองด้านเขาทำได้ปานกลางพอดีๆนะ การแยกชิ้นต่างๆก็ทำได้อยู่ในเกณฑ์
ในความเห็นของผม FiiO FH3 เป็นหูที่ออกฟังไปในโทนฟังสบาย smooth มีความ overall ที่สูง ให้เสียงเบสที่ดี แน่น เสียงร้องที่อิ่ม หนา ฟังสบาย ส่วนเสียงแหลมหายห่วงเรื่องบาดหู แยงหูอะไรพวกนี้ไม่มี
โดยสรุป เป็นหูฟังที่ออกเสียงไปทางโทนอุ่น หนา เบสฟังสนุก ร้องแหลมฟังสบาย สามารถเอาไปฟังเพลงได้แทบทุกแนว รายละเอียดอาจจะไม่ชัดเท่ากับรุ่นพี่ FH5 แต่เสียงด้านอื่นๆผมว่าไม่เป็นรองเลยนะ เอาว่าน่าหามาเป็นเจ้าของ ถ้าเพื่อนๆชอบเสียงแนวที่ผมว่ามาทั้งหมด