Garmin ผู้นำตลาด Fitness smartwatch ชื่อนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

garmin-name

Garmin ชื่อนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แปลว่าอะไร?

เพื่อนๆรู้มั๊ย ตอนเริ่มๆเกือบจะไม่มีชื่อ Garmin ในโลกนี้  endgizmo.com ขอเล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟัง…

แบรนด์นาฬิกาและอุปกรณ์ GPS อันดับหนึ่งที่ครองใจผู้ใช้ทั่วโลก มีจุดกำเนิดจากมนุษย์เงินเดือนที่มีความฝัน คล้ายหลายๆ กิจการในโลกนี้ ที่ประสบความสำเร็จด้วย ความมุ่งมั่น วิสัยทัศน์ ทำงานหนัก

เรื่องราวเริ่มต้น เมื่อปี 1983 (36ปีก่อน) สมัยที่ ระบบ GPS เป็นช่วงเริ่มต้น และใช้เพื่อการทหารเท่านั้น นาย แกรี่ เบอร์เรลล์ Vice-President ของ บริษัท King Radio ได้ว่าจ้างวิศวกรชาวไต้หวัน ชื่อ ดร. เกาหมิน มาทำงานด้วย

garmin-founder

ชีวิตของดร.เกาหมิน น่าสนใจ แกเป็นคนไต้หวันโดยกำเนิด จบป.ตรี วิศวะไฟฟ้าที่ไต้หวันแล้วมาต่อปริญญาโท-เอก วิศวะไฟฟ้าในอเมริกา มีความสนใจและเชี่ยวชาญด้านเรดาร์ วิทยุค้นหาตำแหน่ง งานที่ King Radio ว่าจ้าง ดร.เกาหมิน มาทำก็คือ สร้างอุปกรณ์ GPS นำทางเครื่องแรกให้กับ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของอเมริกา

6 ปีผ่านไป ….ในปี 1989

เย็นวันหนึ่ง แกรี่ก็ได้กินดินเนอร์มื้อประวัติศาสตร์กับดร.เกาหมิน ทั้งคู่คุยกัน ถึงความเชื่อมั่นว่า ระบบ GPS ที่ใช้ในการทหาร น่าจะสามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปได้ น่าจะช่วยนำทางและสร้างความปลอดภัยให้กับคนขับรถ ขับเรือ เดินป่าฯลฯได้

คุยไปคุยมา ไฟในตัวลุกพึ่บพั่บ ชวนกันออกมาตั้งบริษัท ProNav (มือโปรด้านนำทาง) ระดมเงินเก็บทั้งชีวิต ระดมทั้งจากญาติสนิทมิตรสหาย ได้เงินมา 4 ล้านเหรียญ เริ่มบริษัทจากห้องเล็กๆ อุปกรณ์สำนักงานง่อยๆ อย่าง เก้าอี้พับ และโต๊ะพับ สินค้าตัวแรกที่ทำคือ GPS100 ใช้ในการเดินเรือ

Garmin ProNav GPS100

ProNav GPS100 very first Garmin Product

ชีวิตทั้งคู่มากับดวง ทำสินค้าถูกจังหวะพอดี ดาวเทียมระบบ GPS ได้เปิดใช้งาน หลังจากชลอไป 2 ปี จากเหตุระเบิดของยานกระสวยอวกาศชาเลนเจอร์

แค่เปิดตัวอย่าง ในงานแสดงสินค้า ก็มียอดจองถึง 5000 ตัว !!!!  จากยอดจองมากมายขนาดนี้ ทำให้ ดร.เกาหมินบินกลับไปไต้หวันเพื่อตั้งโรงงานผลิต

สินค้าฮิตของ ProNav พอวางตลาดก็เจอปัญหาเรื่องชื่อ เพราะชื่อ ProNav ดันมีคำว่า Pro กับ Nav ที่ดันไปตรงกับสินค้าของบริษัทคู่แข่ง พ้องชื่อกับสินค้าระบบนำทางของการบินของเขาเข้า จนนำไปสู่การฟ้องร้องขึ้นศาล คนค้าขายไม่ได้อยากค้าความ

แกรี่ และ ดร.เกาหมิน เลยต้องหาชื่อใหม่แทน ProNav คิดไปคิดมา ใช้สูตรตั้งชื่อยอดนิยม คล้ายๆ กับที่คนไทยตั้งชื่อลูก โดยเอาชื่อผู้ก่อตั้ง 2 คนมาบวกกัน : Gary และ Kao Min

เป็น #Garmin !!!! บราโว่ ชื่อ Garmin จึงถือกำเนิดในโลกนับแต่บัดนั้นมา

นอกจากเรื่องชื่อ ยังมีเกร็ดน่าสนใจของแบรนด์นี้

  • แกรี่กับดร.เกาหมิน เป็นคนทำธุรกิจแบบมีวินัย ลงทุนด้านพัฒนาสินค้าและบริหารเงินให้มีเงินสดติดธนาคารตลอดเวลา ไม่พยายามมีหนี้ ทำให้รอดเหตุการณ์วิกฤติหลายครั้ง
  • การร์มินผลิตอุปกรณ์เป็น OEM มากมายให้กับธุรกิจการบิน การเดินเรือ และรถยนต์
forerunner 201 wearable smartwatch
  • ในปี 2003 การ์มิน ก็ต้องการที่จะลดขนาดอุปกรณ์ตัวนี้ให้เล็กลง เพื่อทำตลาดอุปกรณ์ GPS ส่วนบุคคลที่พกพาไปไหนก็ได้ ซึ่งมันก็ไม่ค่อยสำเร็จนัก แต่จากความพยายามนี้บริษัทก็ได้เปิดตัว Forerunner 201 นาฬิกาออกกำลังกายที่มี GPS ตัวแรกของโลก และสินค้าตัวนี้มันก็สร้างความแตกต่างให้กับตลาด และชี้ทางให้ การ์มิน บุกตลาด Wareable หรืออุปกรณ์สวมใส่เต็มรูปแบบหลังจากนั้น ผ่านการใส่นวัตกรรมใหม่ๆ เช่นการวัดอัตราเต้นของหัวใจ, วัดค่าออกซิเจน รวมถึงนาฬิกาที่ใช้สวมใส่เพื่อดำน้ำได้จริง
  • การ์มินเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2006-2007 ที่เป็นช่วงระเบิดของความต้องการอุปกรณ์นำทางติดรถยนต์ (มาได้จังหวะอีกแล้ว)
  • ตอนนั้นเองทำให้ การ์มิน เป็นที่รู้จักในฝั่งผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น จากเดิมที่เน้นทำตลาดในระดับองค์เอกชน และหน่วยงานภาครัฐ จนกระทั่งปี 2008 (พ.ศ.2552) ก็สามารถจำหน่ายได้รวมกว่า 40 ล้านเครื่องทั่วโลก และกลายเป็นผู้นำในสินค้ากลุ่มอุปกรณ์นำทางรถยนต์ผ่าน GPS
  • ดร.เกาหมิน มักจะกังวลใจเรื่องอนาคตของ การ์มินว่าเป็นอย่างไร แต่แกรี่มักจะตอบว่า “เราจะอยู่รอดหรือตาย ขึ้นกับ “ความเข้าใจสินค้าเราจากผู้ที่ใข้งาน” … เราแค่ให้ความสำคัญกับการทำผลิตภัณฑ์ที่ดีมากๆและทำให้ผู้คนมีความสุขกับมัน แบรนด์ก็จะอยู่รอดด้วยตัวเอง”
  • แกรี่ รีไทน์จาก การ์มิน ตั้งแต่ปี 2004
  • ดร.เกาหมิน ปัจจุบันดำรงค์ตำแหน่ง ประธานบริษัท จากข้อมูล ทั้งแกรี่และดร.เกาหมินเป็นคนถ่อมตัว น้อมรับความเห็นเพื่อนร่วมงาน มองเห็นทีมเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโต
  • เช่นเดียวกับผู้ประสบความสำเร็จ ทั้งคู่เป็นคนทำการกุศลคู่กับธุรกิจ ดร.เกาหมินได้บริจาค 17.5 ล้านเหรียญเพื่อสร้างอาคารและแล็ป ให้กับมหาวิทยาลัย Tennessee ที่เป็นศิษย์เก่า แกรี่ได้บริจาคเงินจากหุ้นจำนวนมากให้กับองค์การการกุศลที่ไม่เปิดเผยชื่อ คาดเดากันว่าเป็นโบสถ์คริสเตียนที่แกรี่ร่วมก่อตั้ง
  • ล่าสุด การ์มินได้ยกระดับสินค้า Wareable ไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว MARQ นาฬิกาหรูที่ใช้วัสดุที่แตกต่าง รวมถึงฟีเจอร์ และฟังก์ชั่นภายในที่ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทางได้ โดยแบ่งเป็น 5 รุ่นย่อยคือ Driver, Athlete, Captain, Aviator และ Expedition

การเติบโตที่ยั่งยืนของฝั่ง Wareable

“เราเห็นว่าลูกค้าต้องการ Wareable ที่ดูดีขึ้น และมีฟีเจอร์ กับฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของพวกเขามากกว่าเดิม เราจึงใช้เวลาคิดนาน 3-4 ปี ส่วนชื่อ MARQ ก็มาจากฟังก์ชั่น Mark ที่ใช้ในเครื่อง GPS และ Q ก็มาจากคำว่า Marquis ที่แสดงถึงความหรูหรา” Brad Trenkle ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์กิจกรรมกลางแจ้งของ Garmin กล่าว

สำหรับ Garmin ปัจจุบันแบ่งธุรกิจเป็น 5 ประเภทด้วยกันประกอบด้วย Fitness หรืออุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ, Outdoor หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง, Auto หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานในรถยนต์, Aviation หรืออุปกรณ์ที่ใช้บนเครื่องบิน และ Marine หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในเรือ

segment-sale-distibution

Garmin มียอดขายในกลุ่ม Outdoor/Fitness สูงขึ้นเรื่อยจาก 16% ในปี 2009 เติบโตเป็น 52% ในปี 2019 และตลาดเอเชียเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด

สรุป

ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจำชื่อแบรนด์การ์มิน ในเรื่องอุปกรณ์ GPS ที่ใช้ในรถยนต์ แต่ปัจจุบันถ้าพูดถึงการ์มิน ก็ต้องเป็นนาฬิกาออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ จึงไม่แปลกที่ยอดขายของ Garmin จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย และต้องติดตามว่า Garmin จะเดินเกมธุรกิจในอนาคตอย่างไร เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Leave a Reply